ตามหลัหฐานทางวิทยาศาสตร์แล้วจะพบว่า โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ๆ แบ่งออกเป็นสองยุคใหญ่ ๆ คือ ยุน้ำแข็ง(Gracial) กับยุคอบอุ่น(Intergracial) แต่ละยุคใช้เวลาในการหมุนเวียนับหมื่น ปี ในยุคนี้เราถือว่าเราอยู่ในยุคน้ำแข็งตอนปลาย ๆ นั่นหมายความว่า น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายมาขึ้นเรื่อย ๆ จนน้ำในมหาสมุทรจะเอ่อล้นท่วมทัีบเข้ามาในแผ่นดิน หากศึกษาจากประวัติศาสตร์ไทยก็จะพบว่าทะเลโบราณโดยเฉพาะอ่าวไทยเคยเข้าไปถึงจังหวัดที่ลงท้ายด้วยบุรีทั้งหลาย อาทิ สุพรรณบุรี เคยเป็นท่าเรือของอุศาคเนย์ที่ยิ่งใหญ่ในนามอาณาจักรทวาราวดีตะวันออก ลพบุรี เองก็เคยเป็นท่าเรือหน้าด่านควบคุมการค้าหัวเมืองทางเหนือ และลุ่มน้ำเจ้าพระยาป่าสักทั้งหมด จวบจนเจ้าพระยาแลป่าสักได้พัดตะกอนมาทับถมเรื่อย ๆ เข้า แผ่นดินหนองโสน อโยธยา สามโคก จึงงอกเงยออกไป ทำให้ทั้งสุพรรณและลพบุรีสูญเสียศักยภาพทางภูมิศาสตร์ เป้นเหตุให้เจ้าบ้านผ่านเมืองของทั้งสองเมืองท่า ที่เกี่ยวดองหนองยุ่งกันทางพระราชไมตรีและทางการสมรส ย้ายโยกมาตั้งเมืองท่าเมืองการค้าใหม่ที่หนองโสนอโยธยา
นั่นก็หมายความว่าน้ำท่วมปทุมธานี ที่ร่ำลือกันตอนนี้มีความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ แต่การแตกตื่นหาซื้อที่ดิน บ้านจัดสรรค์กันแถวโคราช ลพบุรี ผู้เขียนคิดว่านั่นมีนัยยะแอบบแฝงเรื่องการตีข่าวใส่ไข่แล้วก้พยายามใช้วิกฤติโลกในการเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ของนายทุน ผู้เห็นความเดือดร้อนของผู้คนเป็นเงินเป็นทอง
ท่านจำน้ำท่วมลพบุรีและโคราช เมื่อปลายปีก่อนได้หรือไม่ ต้องทำความเข้าใจร่วมกันก่อนว่า ใช่ว่าถ้าถึงกาลที่น้ำท่วมจังหวัดชายทะเลขึ้นมาจริง ๆ แล้วลพบุรี โคราชจะเป็นพื้นที่ ปลอดภัยทั้งหมด โดยเฉพาะลพบุรี ที่มีภูมิศาสตร์แบบภูเขาโดด ๆ จะมีบางส่วนเม่านั้นที่ไม่ท่วมคือภูเขา ซึ่งภูเขานั้นไม่ใช่สถานที่ซึ่งสามารถใช้ประโยชนืได้ตามกฎหมายปัจจุบัน แต่อนาคตถ้ามันเกิดวิกฤตการณ์ดั่งว่าขึ้นมาจริง ๆ ระบบการเมืองการปกครองก็ต้องปรับตัวขนานใหญ่แล้วถึงเวลานั้นปัญหาจะถูกแก้ไปเอง
พูดก็พูดเถอะส่วนตัวยังไม่เชื่อว่าน้ำท่วมที่ลือกันจนใกล้แตกฮือนี้ จะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ผมยังเชื่อว่ามันจะค่อย ๆ ขึ้นและรุกเข้ามาเรื่อย ๆ เท่านั้น อาจใช้เวลาอีกนับร้อยปี หรือพันปี อย่าวิตกไปเลยครับ ท่านติชนัทฮันท่านว่า อำนาจอยู่กับปัจจุบันขณะ เรามีอำนาจจะจัดการอะไรต่อมิอะไรได้ก็เฉพาะตอนนี้เดี๋ยวนี้เท่านั้น เราไม่มีอำนาจในอนาคต พระเยซูเจ้าผู้สร้างความหวังด้วยความรักให้กับมวลมนุษย์ ก็กล่าวว่า ในวันที่น้ำท่วมโลก พระเจ้าจะเสด็จมาบนสุวรรณบัณลังก์ จะทรงพิพากษาประชากรอิสราเองและชนชาติทั้งหลาย ให้คนกลุ่มหนึ่งไปอยู่เบื้องขวาพระหัตถ์ อีกกลุ่มให้อยู่เบื้องซ้าย ใครเล่าจะได้อยู่เบื้องขวาซึ่งหมายถึงผู้รอด คนเหล่านั้นคือคนที่ให้ทาน ช่วยเหลือเกื้อกูล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ มีจติใจดีงาม พวกฝั่งซ้ายมือ คือพวกที่ไม่ทำทาน ไม่เอื้อเฟื้อจิตใจสกปรกโสมม แม้แต่พระเป็นเจ้าท่านยังทรงสอนให้เราทำดีในปัจจุบันนี้เลย ดังนั้น คนที่มีความรัก และความดี ในปัจจุบัน เท่านนั้นที่จะรอด ทำดีกันเถอะค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น